📏 ความหนากล่อง
“ความหนา” ของกล่อง ไม่ได้แค่บอกความแข็งแรง แต่มันคือหัวใจของการออกแบบให้กล่อง ‘เหมาะสม’ กับสินค้า
กล่องกระดาษลูกฟูกไม่ได้วัดคุณภาพจากแค่ “ดูหนา” หรือ “จับแล้วแน่น” เท่านั้น
แต่ความหนาของกล่องนั้นมีผลโดยตรงกับ
✅ การรับแรงกระแทก
✅ การวางซ้อน
✅ น้ำหนักสินค้า
✅ และต้นทุนโดยรวมของธุรกิจ
🧱 องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับความหนาของกล่อง
-
ชนิดลอนกระดาษ (เช่น ลอน A, B, C, E, BC, EB ฯลฯ)
-
แกรมของกระดาษ (GSM) → คือความหนาแน่นของกระดาษแต่ละแผ่น
-
จำนวนชั้นของกระดาษ → กล่อง 3 ชั้น / 5 ชั้น / 7 ชั้น
-
ลักษณะโครงสร้างกล่อง → กล่องฝาชน, กล่องไดคัท, กล่องฝาครอบ ฯลฯ
📚 ตัวอย่างความหนาโดยประมาณของกล่องตามลอน
ประเภทลอน | ความหนาโดยเฉลี่ย | ลักษณะเด่น |
---|---|---|
ลอน E | ~1.5 มม. | บาง เรียบ พิมพ์สวย เหมาะกับกล่องพรีเมียม |
ลอน B | ~3 มม. | แข็งแรงกว่าลอน E ใช้กับกล่องทั่วไป |
ลอน C | ~4 มม. | รับแรงกระแทกได้ดี วางซ้อนได้ |
ลอน BC | ~6 มม. | กล่อง 5 ชั้น สำหรับสินค้าหนักหรือส่งออก |
ลอน EB | ~4.5 มม. | กล่องพรีเมียมที่ต้องแข็งแรงและพิมพ์สวย |
ลอน A | ~5 มม. | ไม่ค่อยนิยมใช้ในไทย หนาแต่นุ่ม |
✅ ความหนากล่องที่เหมาะกับแต่ละประเภทสินค้า
สินค้า | ลอนกล่องแนะนำ | เหตุผล |
---|---|---|
เครื่องสำอาง | ลอน E | พิมพ์สวย ดูหรู |
อาหารแห้ง | ลอน B | แข็งแรง ขนส่งปลอดภัย |
เครื่องใช้ไฟฟ้า | ลอน BC | ต้องรับน้ำหนักมาก |
ผลไม้ส่งออก | ลอน C หรือ BC | ต้องรับแรงกดซ้อน |
กล่องของขวัญ | ลอน EB | บางแต่หรู แข็งแรง |
พัสดุออนไลน์ | ลอน B หรือ C | คุ้มค่า แข็งแรง |
🎯 ความหนากล่องมีผลกับอะไรบ้าง?
🔹 แรงกด → กล่องหนาจะรับแรงซ้อนจากด้านบนได้มาก
🔹 แรงกระแทก → ลอนสูงช่วยซับแรงตกได้ดี
🔹 การพิมพ์ → ลอน E ให้ผิวเรียบสำหรับงาน Offset
🔹 ต้นทุน → กล่องหนากว่า = ราคาสูงขึ้น
🔹 ค่าน้ำหนักขนส่ง → กล่องหนากว่า หนักขึ้นเล็กน้อย
🔹 ภาพลักษณ์สินค้า → กล่องหนา = สินค้าดูพรีเมียม
❗ ข้อควรระวังในการเลือกความหนากล่อง
❌ หนาเกินความจำเป็น → ต้นทุนสูงเกินจำเป็น
❌ บางเกินไป → สินค้าชำรุดระหว่างขนส่ง
❌ ไม่เหมาะกับวิธีพิมพ์ → กล่องลอนสูงแต่ต้องการพิมพ์ละเอียด
❌ ใช้กล่องหนาแต่ไม่ได้วางซ้อนจริง → เปลืองพื้นที่/น้ำหนัก
❌ ลืมพิจารณาการระบายความชื้น → กล่องหนาเก็บความชื้นสูงขึ้น
🌱 ความหนากล่องและความยั่งยืน
✅ เลือกความหนาที่ “เหมาะสม” → ลดการใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น
✅ กล่องที่ไม่หนาเกินไปจะใช้วัสดุน้อยกว่า → ลดต้นทุน CO₂
✅ ออกแบบให้กล่องพอดีกับสินค้า → ลดวัสดุกันกระแทก
✅ ใช้กระดาษรีไซเคิลได้แม้ในกล่องหนา
📌 สรุป
“ความหนาของกล่อง” ไม่ได้แปลว่าหนากว่าดีกว่าเสมอไป
แต่ “ความหนาที่เหมาะสมกับสินค้าและระบบขนส่ง” คือทางเลือกที่ดีที่สุด
→ ทั้งแข็งแรง
→ ประหยัด
→ และรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์